เป็นอีกคู่นึงของสมาร์ทโฟนที่สูสีกันมากเลยทีเดียว แม้ว่า Samsung Galaxy S3 จะได้เปรียบนิดหน่อยเนื่องจากเพิ่งจะเปิดตัว ในขณะที่ iPhone 4S เปิดตัวมาพักหนึ่งแล้ว
เรามาลองเทียบความสามารถของทั้งคู่ โดยเริ่มจาก ระบบควบคุมการทำงานด้วยเสียง ค่ายแอปเปิ้ล มี siri ในขณะที่ samsung ก็มี s voice แม้ว่าจะยังเร็วไปที่จะเทียบความสามารถเพราะเรายังไม่เห็นการทำงานของ galaxy s3 ที่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่า samsung จะมีความสามารถที่สูงกว่า
ระบบการแจ้งเตือน ไอโฟนมีการแจ้งเตือนครอบคุลมทั้งหมด คุณสามารถเห็นการเตือนในสิ่งที่เพิ่งทำ ไม่เฉพาะการเตือนmiss call และ ข้อความ ส่วนซัมซุงก็มีการพัฒนาฟังก์ชันการแจ้งเตือน เมื่อมีสาย miss call โทรมาหาคุณ ทันทีที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คุณจะทราบทันที เพราะเครื่องจะสั่นและมีไฟกระพริบเตือน
ระบบ Streaming and Sharing เครื่องไอโฟนจะเชื่อมกับระบบ iCloud ให้คุณใส่ข้อมูลต่างๆเก็บไว้ได้ ดังนั้นหากคุณโหลดเพลงบน iTune จากมือถือไอโฟนของคุณ เพลงจะถูกส่งอัตโนมัติไปใน library ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ Samsung’s S-Cloud ยังเป็นเพียงข่าวลือ …
การเชื่อมต่อ ซัมซุงเสนอ S Beam ในการใช้จับคู่กับเครื่องอื่น เพื่อแชร์ภาพ วีดีโอ หรือข้อมูลอื่นๆ ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi ….ฟังก์ชัน Direct Call ช่วยให้โทนหาบุคคลที่ต้องการง่ายขึ้น เพียงเปิดหน้าข้อมูลติดต่อของบุคคลนั้น แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู (ไม่ต้องกดปุ่มโทรออก) ส่วน iPhone 4S สามารถเชื่อมต่อกันด้วย iMessage หาตำแหน่ง gps ,สนทนาผ่านระบบวีดีโอด้วย facetime แต่ไอโฟนไม่มีฟังชัน Direct Call
กล้อง – SIII มีระบบใหม่เรียกว่า Burst Shot ที่จะบันทึก 20 ภาพในครั้งเดียวที่กดถ่ายรูป คุณสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดได้ ขณะที่แอปเปิ้ลมี HDR ที่บันทึกภาพได้ 3 ภาพ ในการกดถ่ายแค่ครั้งเดียว และทั้ง 3 ภาพสามารถตั้งค่าของภาพให้ต่างกันได้ iSight มีระบบจับภาพใบหน้าอัตโนมัติ เพื่อให้กล้องโฟกัสได้ถูกต้องที่บริเวณใบหน้า ส่วน samsung มีระบบ Face Zoom ที่ให้คุณเลือกสิ่งที่ต้องการแล้วซูมเข้าไปดูได้
เรื่องสุดท้าย คือ สเปคเครื่อง ดูได้จากตารางเปรียบเทียบด้านล่างกันเลย
อย่างไรก็ตาม จะซื้อของดี ของแพงทั้งที สุดท้ายแล้ว หลังจากมีข้อมูลทั้งหมด ก็ไปลองทดสอบของจริงกันก่อน เพราะรายละเอียดทางหน้าจอ ยังไงก็สู้ของจริงที่ทั้งตาเห็นและมือคลำไม่ได้
