Facebook คือ เครื่องมือที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง

Facebook เว็บไซต์โซเชี่ยลมีเดียระดับโลกที่ชาวไทยผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็น แทบไม่มีใครที่ไม่มีบัญชีเฟสบุ๊ค สำหรับประโยชน์ของเว็บเฟสบุ๊คนั้นมีมากมายหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันการใช้งานไม่ถูกวิธีก็ทำให้เกิดผลเสียตามมาด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูถึงข้อเสียในแง่ที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันเลวร้ายกับเพื่อนของเรา

ด้วยพลังอำนาจของเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค นี่คือเครื่องมือที่ดีที่สุดในการค้นหาและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ แต่ในขณะเดียวกันเฟสบุ๊คก็เป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งได้อย่างมากมายเช่นกัน มีเพื่อนฝูง และคู่รัก หลายคู่ที่ต้องยุติความสัมพันธ์เพราะเฟสบุ๊ค

facebook ทำให้ทะเลาะ

เพราะเหตุใดเฟสบุ๊คจึงเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้ง ?

 1. เฟสบุ๊คเปิดเผยตัวตนและความคิดของผู้ใช้งานออกมาทั้งหมด

แต่ละคนบนโลกใบนี้ ล้วนมีพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน หล่อหลอมจนทำให้เกิด ความเชื่อ ความชอบ ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งความแตกต่างกันเหล่านี้เดิมทีเดียวไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน แต่ทันทีที่เฟสบุ๊คเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ความคิดส่วนตัวก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน และเมื่อความคิดไม่ตรงกันก็ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีมานานระหว่างเพื่อนเก่าอาจต้องจบลงไป

ในอดีตเคยมีคำสอนเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนไว้ว่า หากอยากคบกันให้นาน อย่าคุยเรื่อง เงิน , การเมือง และ ศาสนา แต่เฟสบุ๊คทำให้ผู้ใช้งานแต่ละคนเห็นความคิดระหว่างกันในเรื่องพวกนี้ได้ทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการเมือง เป็นสิ่งที่รุนแรงมาก และเพื่อนหลายคนก็ต้องผิดใจกันเพราะความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ความเป็นเพื่อนน่าจะสำคัญกว่า

 

 

2. เฟสบุ๊คเป็นแหล่งระบายอารมณ์ และพูดถึงความไม่ดีของผู้อื่น

ในสภาวะที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติ คนทุกคนมักขาดความยั้งคิด และทำอะไรไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ใช้งานเฟสบุ๊คหลายคนเป็นเช่นนั้น ใช้เฟสบุ๊คเป็นเครื่องมือในการระบายอารมณ์ ความไม่พอใจต่อบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัว เพื่อนวัยเรียน เพื่อนร่วมงาน แม้กระทั่งเหตุการณ์ที่เจอในชีวิตประจำวัน

เรื่องราวจากอารมณ์ล้วน ๆ เหล่านี้จะถูกแพร่กระจายออกไปในกลุ่มอย่างรวดเร็ว และสร้างความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นได้ หากคู่กรณีมาอ่านเจอจากการแชร์ต่อ ๆ กันไป หรือ จากการที่มีคนไปเล่าให้ฟัง

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหากรอให้อารมณ์เย็นและสติกลับคืนมา เรื่องที่โพสไปแล้ว อาจจะไม่ถูกโพสก็ได้

นอกจากความขัดแย่งกับคู่กรณีที่เกิดขึ้นได้แล้ว หากมีเพื่อนคนอื่นมาแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ไม่เห็นด้วย ไม่เข้าข้าง ก็ยิ่งเพิ่มคู่กรณีขัดแย้งมากกว่าเดิมได้อีกด้วย

เพื่อนร่วมงานหลายคน หัวหน้างานและลูกน้องหลายคู่ พนักงานบริษัทและลูกค้าหลายแห่ง ต้องกินแหนงแคลงใจเพราะเฟสบุ๊ค บางคนต้องเสียงานเสียการ เสียโอกาสต่าง ๆ เพราะเฟสบุ๊ค

 

สามีภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันหลายคนต้องขัดแย้งรุนแรงเพราะอีกฝ่ายนำเรื่องราวไม่ดีส่วนตัวระหว่างกันมาโพส นำเรื่องการทะเลาะในครอบครัวมาเขียน เพื่อต้องการระบาย หรือต้องการให้คนอื่น ๆมาตัดสินว่า ใครผิด ใครถูก ทั้งที่ในความเป็นจริงเรื่องเหล่านี้ควรปรับความเข้าใจกันในครอบครัว

และสำหรับคนที่ชอบแสดงความเห็นในข้อความที่เพื่อนโพสเล่าเรื่องการทะเลาะกันระหว่างแฟนไว้ โปรดคิดไว้ด้วยว่า หากเขากลับมาคืนดีกัน คุณอาจเป็นฝ่ายที่โดนทั้งคู่ตัดความสัมพันธ์แทน

 

คำสอนในสมัยโบราณที่บอกว่า “ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า ” เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากขึ้น เมื่ออยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวขณะที่กำลังเปิดหน้าเฟสบุ๊ค

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคนโพส หรือ คนคอมเม้นท์แสดงความเห็น ต้องระมัดระวังไว้ด้วย หากอยากรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้ยืนยาว

 

3. เฟสบุ๊คทำให้เกิดการหึงหวง

กรณีนี้มุ่งประเด็นไปที่คู่รัก และสามีภรรยา โดยเฉพาะ  เนื่องจากเฟสบุ๊คเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ มีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักมาเป็นเพื่อนมากมาย ข้อความที่คอมเม้นท์ถึงกัน หรือแซวกันเล่น ก่อให้เกิดความหึงหวงและทะเลาะกันได้

มีหลายคนที่ประสบปัญหาเพราะ การโพสข้อความหยอกล้อแซวกันเล่นกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าเพศตรงข้าม จนเรื่องลุกลามไปใหญ่โตกระทบไปถึงที่ทำงาน

แม้กระทั่งการโพสข้อความกับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยเจอกัน ก็ยังเกิดปัญหาให้ต้องเคลียร์ ปรับความเข้าใจกัน และนี่ก็เป็นอีกข้อด้อยของเฟสบุ๊ค

 

4. เฟสบุ๊คไม่สามารถปิดกั้นข้อมูลได้ทั้งหมด

หลายคนเข้าใจว่า เฟสบุ๊คปิดกั้นข้อมูลได้ทั้งหมดแต่นั่นไม่ได้เป็นความจริง ข้อความที่คุณโพสไปนั้นนอกจากจะถูกส่งไปแบบออนไลน์แล้ว ยังถูกส่งแบบปากต่อปากอีกด้วย

หากคุณทราบว่าเพื่อนคุณมีความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับคุณ โดยที่คุณเองเป็นคนแยกแยะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและการเมืองได้ แต่มั่นใจว่าเพื่อนคุณแยกเรื่องนี้ไม่ได้ คุณจึงพยายามหลีกเลี่ยงการทะเลาะด้วยการปิดข้อมูลให้อ่านได้เฉพาะเพื่อนแล้วละก็ อย่าคิดว่าข้อมูลทั้งหมดจะไม่สามารถล่วงรู้ไปถึงเพื่อนคุณได้

แม้กระทั่งการที่คุณบล็อค หรือไม่ยอมรับการเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คเมื่อเขาแอดไป ก็สร้างความไม่พอใจได้แล้วละ

 

สรุปสุดท้าย เฟสบุ๊คมีข้อดีมากมาย และก็มีข้อเสียหลายอย่าง ดังนั้นควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง คิดและไตร่ตรองทุกครั้งที่จะโพส หรือ คอมเม้นต์ อย่าคิดว่านั่นคือพื้นที่ส่วนตัวคุณ เพราะแม้แต่ในหน้าเพจของคุณเองมันก็คือพื้นที่สาธารณะ เฟสบุ๊คไม่ใช่ไดอารี่ที่ไว้บันทึกความในใจและเก็บไว้อ่านคนเดียว

 

 

 

บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง

5 สิ่งใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลัง Facebook ซื้อ Instagram
หาเพื่อนออนไลน์ไปดื่มกาแฟด้วย Coffee Meets Bagel
มีแนวโน้มการใช้งาน Pinterest ลดลง
เว็บโคลน pinterest ออกมากันเพียบ
เฟสบุ๊คป้องกันผู้ใช้งานจากการคลิ๊กลิงค์ที่ติดไวรัส พร้อมแจกไลเซ็นต์แอนตี้ไวรัสฟรี 6 เดือน
LinkedIn เปิดตัวแอปพลิเคชั่นสำหรับ iPad และ iPhone
เกมส์ Angry Birds บนเฟสบุ๊ค แข่งขันสถิติกับเพื่อน และยังสามารถแชร์ข้อมูลได้ด้วย
แอปพลิเคชั่น Facebook Poke บนไอโฟน มีไว้ทำอะไร

แสดงความคิดเห็น

comments